|
ใต้แสงจันทร์
โดย…จันทร์กระจ่าง
อากาศหลังฝนตกในยามค่ำคืนหนาวเหน็บ
ธิดาซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มหนา
ชายหนุ่มที่นอนเคียงข้าง หันหลังให้เธอ
เขาหลับสนิท
เสียงลมหายใจแผ่ว
แผ่นหลังของเขาเปลือยเปล่า ‘เขาคงหลับจริงๆ’
เธอรำ
พึงในใจ
ก่อนหน้านี้เธอเคยคิดว่า
ตัวเองเป็นคนที่โชคดีที่ได้แต่งงานกับชายหนุ่ม
เก่ง โก้ หล่อ
และรวย
หากวันนี้เธอกลับไม่แน่ใจ
และถามตัวเองว่า
เธอโชคดีจริงหรือ
เขาเป็นคนดี
รักลูกรักครอบครัว
แต่…เธอกลับรู้สึกว่า
เขามีใครบางคนอยู่ในหัวใจ
และรู้สึกหวั่น
ไหวทุกครั้งที่เขากอดรัดสัมผัสเธอ
เขาทำราวกับว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องทำเพื่อให้ผ่านพ้นไป…แค่นั้น น้ำตาของ
ธิดาไหลริน
เธอบอกไม่ถูกอีกนั่นแหละว่า
เพราะอะไร
เธอถึงรู้สึกเช่นนั้น
หรือเป็น
เพราะเขานอนหันหลังให้เธอทุกครั้งหลังจากบทรักเสร็จสิ้นลง ‘ไม่ใช่’ เธอค้านตัวเอง
และคิดทบทวนกลับไปเมื่อครั้งแรกที่ร่วมรักกัน
ครั้งนั้นคงเป็นเพราะเธอและเขา
ยังใหม่
เธอจึงไม่รู้สึกประทับใจอะไรกับบทรักที่เกิดขึ้น
หากวันนั้นกับวันนี้ก็ไม่ต่างไปจากกันเลย
ธิดาลุกขึ้นเดินวนไปรอบๆ
เพราะไม่อาจทนนอนต่อไปได้อีก
นานแค่ไหนแล้วที่เธอเป็นโรคนอน
ไม่หลับ
มักตื่นขึ้นมากลางดึก
และชอบถามตัวเองซ้ำๆ
ว่า
เขารักเธอบ้างไหม
ถ้าไม่รักแล้วเขาแต่งงานกับ
เธอทำไม เธอทรุดนั่งขดตัวอยู่บนเก้าอี้นวม
ตามองร่างที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงนุ่ม
พลางคิดอยากปลุกเขาขึ้น
มาถาม
เขาคงหาว่าเธอบ้า!
ธิดาถอนใจ
ไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาใคร…จะปรึกษาเพื่อนหรือ
เธอก็ไม่กล้า
เพราะตั้งแต่แต่ง
งานมาเธอก็ไม่เคยแม้แต่จะยกหูโทรศัพท์ติดต่อไปหาใครเลย จะปรึกษาหมอหรือ
ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง… ร่างของคนบนเตียงขยับ
แล้วลุกขึ้นเดินตรงมาหาเธอ “เป็นอะไร” เขาถาม
ทรุดนั่งลงข้างเธอ
แล้วดึงเธอเข้าไปกอด “ไม่สบายหรือเปล่า” เสียงของเขาอ่อนโยน
ธิดาน้ำตาริน
ที่อยากถามกลับพูดไม่ออก
เธอจึงก้มหน้านิ่ง
นึกหาเหตุผลที่
ทำให้ตัวเองต้องตื่นขึ้นมากลางดึก “น้องของดาบอกว่าจะมา” เธอเลี่ยงหาทางออก
แม้มันจะไม่เข้าท่านักก็ตาม “แท้จะว่าอะไรไหม
ถ้าน้องของดาจะมาอยู่กับเรา
สักสองสามวัน” เงียบ…นานแค่ไหนธิดาก็ไม่อาจรู้ได้
เธอรู้แต่ว่า
เขาพยักหน้าให้เธอ
ไม่ว่าอะไร
แล้วลุกขึ้นเดินไป
ยังห้องน้ำ “ความจริง…ดาไม่ต้องบอกผมก็ได้
เพราะตั้งแต่มีหลาน
น้องของดาก็แวะมาอยู่บ่อยๆ
จนผมรู้สึก
ว่า
น้องของดาเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวของเราไปแล้ว” เขาบอกเมื่อเสร็จธุระของตัวเอง
แล้วเอื้อมมือมาฉุดให้เธอลุกขึ้น
เธอเดินตามเขาไปนอนลงที่เตียง
เคียงคู่กับเขา เหมือนเขารู้ตัว
เขาตะแคงหน้าเข้ามาจูบเธอ
วาดวงแขนออกกว้างแล้วรั้งเธอเข้าไปกอด
ธิดาอยาก
กอดเขา
สัมผัสเขาอย่างที่เคยเห็นในภาพยนต์
บางที…ชีวิตคู่ของเขาและเธออาจจะดีขึ้น หากก็ไม่เป็นเช่นนั้น
จูบของเขาไม่ดูดดื่ม
สัมผัสของเขาว่างเปล่าและแห้งแล้งเหมือนน้ำที่แห้ง
ขอด
ธิดาปล่อยให้เวลาผ่านไป
จนเช้าวันใหม่
เขาไปทำงาน
ปล่อยให้เธออยู่บ้านกับสาวใช้และลูกน้อย
น้องของเธอมาถึงเมื่อบ่าย ความตื่นเต้นดีใจที่น้องมาอยู่เป็นเพื่อนทำให้เธอลืมทุกข์ไปชั่วขณะ หนึ่ง แต่ถึงเธอจะเป็นทุกข์ เธอก็ไม่อยากให้น้องมารับรู้ถึงทุกข์ของเธอ “พี่ดาดูเหมือนไม่มีความสุข” น้องของเธอถาม
ธิดายิ้ม “แม่ลูกอ่อน
ก็ดูโทรมอย่างนี้แหละ” เธอบอก
พลางพาน้องไปดูห้องที่เธอจัดไว้ให้
ห้องสีฟ้าอ่อนเกือบขาวริมหน้าต่าง
มองเห็นท้องฟ้า
ในเวลากลางคืน
ธิดรู้ว่าน้องชอบมองฟ้าดูหมู่ดาว
ห้องนี้จึงเหมาะสำหรับน้องของเธอที่สุด “พี่จัดห้องให้ใหม่
ดลชอบไหม” “ชอบ…แต่พี่ไม่น่าทำอะไรเพื่อดลขนาดนั้นเลย” เสียงของน้องเศร้า
ตาคมที่เธอเคยบอกว่าสวยกว่านัยน์ตาของใครทั้งหมดหลบวูบ
น้องคงมีเรื่อง
ไม่สบายใจ แล้วอย่างนี้เธอจะกล้าเอาเรื่องไม่สบายใจไปให้น้องอยู่อีกหรือ สามีของเธอกลับมาแล้ว เขาทักทายน้องของเธออย่างสนิทสนม ธิดาปลอดโปร่งใจ อย่างน้อยเขาก็ ไม่รังเกียจน้องของเธอ
กลางวันกำลังจะผ่านไป
เมื่อสาวใช้ของเธอตั้งโต๊ะอาหารเย็น
แล้วขอตัวออกไปเรียนภาคค่ำ…นี่ก็
เป็นหนึ่งในชนวนที่ทำให้เธอไม่เป็นสุข
สาวใช้คนงามที่กำลังอยู่ในวัยรุ่นสาว
และเขาก็เป็นคนแนะนำให้
สาวน้อยเรียนต่อ
อาหารค่ำเสร็จสิ้นลงในเวลาต่อมา
น้องของเธอเป็นคนเก็บจานชามไปไว้ในครัว
รอให้สาวใช้
กลับมาล้าง
ส่วนเธอกับเขาก็พาลูกเข้านอน
วันนี้ฝนไม่ตก
ฟ้ามืดมีดาวกระจ่างเต็มฟ้า
หากลมหนาวพัดโบกเข้ามาจนธิดารู้สึกหนาว
เธอห่ม
ผ้าให้ลูก
แล้วเดินกลับมาที่เตียง
เขานอนหงาย
มือทั้งสองข้างอยู่ใต้ศีรษะ
ตามองมาที่เธอ
ธิดาหมดการวางเฉย
เธออยากเริ่มต้นกับเขา
และหวังว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี
เธอซุกหน้าเข้าซอกคอ
และแนบแผ่นกายเข้าหาเขา
จูบเขาอย่างที่เธออยากให้เขาจูบ
ทำกับเขาอย่างที่เธออยากให้เขาทำ
สัมผัสเขา
อย่างที่อยากให้เขาสัมผัส
และมันก็ไม่เลวเลยหลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้นลง
เธอหลับ
และฝันไป
วันนี้เธอฝันดี
ฝันเห็นเจ้าชายเจ้าหญิงในนิทานที่เคยอ่านเมื่อวัยเด็ก
มาตกใจ
ตื่นเมื่อรู้สึกหนาว
เธอลุกขึ้นมาเงียบๆ
‘เขาคงหนาว’
เธอมองหาผ้าห่ม
ตั้งใจจะห่มผ้าให้เขา
หากข้างกาย
ของเธอกลับว่างเปล่า
มองไป
ห้องน้ำก็เปิดทิ้งเอาไว้
และมืดสนิท ‘เขาไปไหน’
ในหัวใจของธิดาร้อนรุ่มดุจไฟเผา
เธอก้าวขาลงจากเตียง
เดินตรงไปยังห้องนอนของสาวน้อยที่
เขาหามาเพื่อให้อยู่เป็นเพื่อนเธอกับลูก
‘หนูนิด’
ธิดาใจสั่น
มือสั่นเมื่อพยายามบิดลูกบิดเปิดประตูเข้าไป
แต่…ห้องก็ปิดแน่นหนา
น้ำตาของลูกผู้หญิงไหลริน
ถ้าเขาคิดจะนอกใจเธอ
ทำไมเขาไม่ออกไปทำอะไรนอกบ้าน
ทำไม
เขาไม่ให้เกียรติเธอบ้าง
เวลานี้
ขณะนี้เธอจะหันหน้าไปปรึกษาใคร
น้องของเธอยังอยู่
คงพอปรึกษาได้
แล้วเธอก็พาตัวเองเดินไปยังห้องนอนของน้องที่อยู่อีกมุมหนึ่ง
ของบ้าน
เธอหยุดยืนชั่งใจ
เพราะไม่อยากให้น้องเป็นทุกข์กับเรื่องของเธอ
แต่…เธอก็ไม่มีทางเลือก
ประตูห้องของน้องไม่ได้ล็อค
เธอผลักประตูเบาๆ
ประตูก็เปิดกว้างออก
แสงจันทร์สีนวลที่สาด ส่องผ่านหน้าต่างสว่างพอมองเห็นว่า
น้องไม่ได้นอนอยู่คนเดียว
‘เพชรแท้กับธีรดล
น้องเธอ’
โลกทั้งโลกเหมือนจะหยุดหมุนอยู่แค่ตรงนั้น
แข้งขาที่เคยยืนได้อย่างมั่นคงอ่อนล้า
และไม่รู้ตัวว่า ได้พาตัวเองออกมาจากห้องนั้นได้อย่างไร
น้ำตาของธิดาไหลอาบ
หยาดน้ำเล็กๆ
หยดต้องมือที่ประสาน
เอาไว้บนตัก
“เพชรแท้”
“ธีรดล” ชื่อของบุคคลทั้งสองหลุดออกมาจากปากของเธออย่างแผ่วเบา รู้สึกเจ็บร้าวไปทั่วทั้งใจ… ตลอด เวลาที่ผ่านมา ธิดาเคยคิดอยู่เสมอว่า ถ้าเขาไม่รักก็ไม่จำเป็นที่จะรั้งเขาเอาไว้ และการมีสามีที่เหมาะสม ทั้ง รวย ทั้งเก่ง ทั้งโก้ จะมีความหมายอะไร ถ้าหากสามีของเราไปมีคนอื่น และคนอื่นที่ว่านั้นก็เป็นน้องชายที่ เธอรักปานดวงใจ…
|
หน้าแรก || เรื่องยาวทั่วไปหลายตอนจบ || นิยายวิทยาศาสตร์ || บทความพิเศษ || เรื่องเขาเล่ามา Copyright © 2001 by Kritapak Boonteekul. All rights reserved. No part of the contents of this website may be reproduced or transmitted in any form or by any means without the written permission of the owner. |